โควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ดื้อต่อภูมิคุ้มกัน ติดเชื้อง่าย-แพร่ได้มากขึ้น

“นายแพทย์ธีระ” เผย โควิดสายพันธุ์ย่อย ใหม่ดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีน เป็นโอกาสที่จะมีการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นหรือแพร่กันได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

รองศาสตราจารย์นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า 29 พฤศจิกายน 2565… เมื่อวานทั้งโลกติดเพิ่ม 174,759 คน ตายเพิ่ม 778 คน รวมแล้วติดไป 646,366,341 คน เสียชีวิตรวม 6,637,358 คน

5 ลำดับแรก ที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บราซิล ไต้หวัน และก็ฝรั่งเศส

เมื่อวานนี้ปริมาณติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและก็เอเชียครอง 7 ใน 10 ลำดับแรก และก็ 13 ใน 20 ลำดับแรกของโลก

ปริมาณติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั้งโลกในเวลานี้ มาจากทวีปเอเชีย และก็ ยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 76.25 ของทั่วทั้งโลก ขณะที่ปริมาณการตายคิดเป็นร้อยละ 74.93

…ลักษณะ โควิดสายพันธุ์ย่อย ในออสเตรเลีย

Esterman A. ได้เผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับโควิด-19 ที่ระบาดในออสเตรเลียตอนนี้ พบว่าเป็นไปในลักษณะหลากหลายสายพันธุ์แบบ variant soup

โดยมีทั้ง BA.5 39%, BA.2.75 26%, BQ.1 19%, XBB 4% และก็อื่น ๆ

ลักษณะดังกล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นที่เดากันว่าประเทศอื่น ๆ ก็จะเป็นไปในรูปแบบนี้ โดยมีสายพันธุ์ย่อยใหม่ ที่น่าวิตกเช่น BQ.1.x, XBB, BA.2.75.x ที่อาจมีสัดส่วนสูงแตกต่างกันไปในแต่ละทวีป และก็จะมาเทคโอเว่อร์ BA.5 ในเวลาไม่นาน ทั้งนี้ BQ.1.x จะครองสัดส่วนนำ ในอเมริกา และก็ ยุโรป ส่วน BA.2.75.x และก็ XBB จะเด่นในแถบเอเชีย

การระบาดในไทยเรามีลัษณะทิศทางจะเป็นไปในแนวทางข้างต้น

…ตีระฆังเตือนการันตีประเด็นการดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกัน

ทีมงานของ David Ho จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ผลที่เกิดจากงานวิจัยใน bioRxiv เมื่อวานนี้ 28 พฤศจิกายน 2565

ชี้ให้เห็นว่า สายพันธุ์ย่อยใหม่ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BQ.1.x และก็ XBB นั้นดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกันทั้งยังจากวัคซีน และก็การที่เคยติดเชื้อมาก่อน มากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่เคยระบาดมาก่อนหน้านี้อย่างยิ่ง

แม้ข้อมูลทางคลินิกในขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานการันตีว่าจะทำให้เจ็บไข้รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกว่าสายพันธุ์ที่เคยระบาดเดิม

แม้กระนั้นสมรรถนะการดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกันที่มากขึ้นนั้น ย่อมมีผลทำให้เป็นโอกาสที่จะมีการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น หรือ แพร่กันได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นเงาตามตัว

ประการฉะนี้เอง ที่เป็นตัวตอกย้ำให้มองเห็น ถึงจุดสำคัญของการป้องกันตัว ระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งประเด็นการใส่หน้ากาก หลีกเลี่ยงความประพฤติเสี่ยง หลีกเลี่ยงสถานที่ยัดเยียดระบายอากาศไม่ดี รักษาความสะอาด และก็ เว้นระยะห่าง จากผู้อื่น

Personal protective behaviors เป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุด

…ฟุตบาทประวัติศาสตร์การแพร่ ของแต่ละสายพันธุ์

โควิด-19 แพร่ระบาดมานับเป็นเวลาหลายปี โดยมีสายพันธุ์ที่หลากหลาย

ถ้าหากเปรียบเทียบกันตัวต่อตัว จะพบว่า ในระยะเวลา 100 วันแรกของการระบาด สายพันธุ์ Omicron นั้นแพร่ขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งโลกได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น ที่ระบาดมาก่อน ถึง 5 เท่า

แต่ละระลอกก่อนหน้านี้ ตั้งแต่สายพันธุ์เริ่มแรก (Wuhan: Wild type), เบต้า, แกมม่า, อัลฟ่า, เดลต้า, และ Omicron นั้น ก็มีลักษณะของ ทวีปที่มีการระบาดหนัก ก่อนกระจัดกระจายไปยังทวีปอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป

…สำหรับระลอกอนาคตนั้น ลักษณะการระบาดน่าจะมีลัษณะทิศทางไม่เหมือนกันกับอดีต เนื่องจากว่ามีเหตุประเด็นการเดินทางระหว่างประเทศเกิดขึ้นมาก การระบาดจะเป็นลักษณะหลากหลายสายพันธุ์ แปรเปลี่ยนกับการนำเข้า ส่งออก รวมถึงสมรรถนะของไวรัสแต่ละสายพันธุ์ ความประพฤติการป้องกันตัว และก็ การใช้ชีวิตของพลเมือง ประเภท และก็ความครอบคลุมของวัคซีนที่ใช้ และอื่น ๆ

ผลพวงที่จะเกิดขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณการรับเชื้อ การป่วย การเสียชีวิต และก็ Long COVID นั้น ก็เลยเป็นโอกาสสูง ที่จะแปรเปลี่ยนกับหลักการควบคุมป้องกันโรค และก็ ความพร้อม “จริง” ของระบบสาธารณสุขของประเทศนั้น ทั้งเรื่องยาที่ตามมาตรฐาน วัคซีนที่มีคุณภาพ บริการดูแลต่าง ๆ ว่าประชากรในประเทศ จะเข้าถึง และก็ พึ่งพาได้ไหม ยามที่เกิดปัญหา

คำตอบที่พึงประสงค์ของทุกสังคม คือ ยามวิกฤติ ประชากรสามารถพึ่งพา และก็ได้รับความช่วยเหลือดูแลอย่างทันทีทันควัน มีคุณภาพ โดยตลอด

ไม่ต้องพบเจอกับภาวการณ์สิ้นหวัง คอย จนต้องดิ้นรนตีกระปุกขวนขวายหาทางรอด กันเอาเองแบบ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ

…เหตุการณ์ปัจจุบันนี้นั้น จึงควรดำรงชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาทสำหรับเพื่อการดำรงชีวิต

ปกป้องอย่างสม่ำเสมอ ทั้งช่วงดำเนินงาน เรียน หรือท่องเที่ยว

ฉีดยาเข็มกระตุ้นให้ครบตามที่มีการกำหนด

ใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดการเสี่ยงลงไปได้มาก

นอกนั้น ยังคงเจอลักษณะของการสูญเสียการได้กลิ่น และก็การรับรส เจออาการเปลี่ยนไปจากปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กรุ๊ปลักษณะของระบบทางเดินหายใจ หายใจถี่ หายใจไม่สะดวก และก็กรุ๊ปอาการนอกระบบ ที่ไปคล้ายคลึงกันกับสายพันธุ์เดลตาได้เช่นเดียวกัน

สำหรับผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง หรือมีอาการเสี่ยงติดเชื้อ เสนอแนะให้ตรวจ ATK ด้วยตนเอง โดยควรที่จะเลือก ATK ที่ได้รับมาตรฐาน และก็ มีค่าความไว (Sensitivity) และก็ ค่าความจำเพาะ (Specificity) ไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 90%

อ้างอิง

1. Wang Q et al. Alarming antibody evasion properties of rising SARS-CoV-2 BQ and XBB subvariants. bioRxiv. 28 November 2022.

2. Tegally H et al. Global Expansion of SARS-CoV-2 Variants of Concern: Dispersal Patterns and Influence of Air Travel. medRxiv. 27 November 2022.

ข้อมูลที่ได้รับมาจาก รองศาสตราจารย์นพ.ธีระ วรธนารัตน์

ฮือฮา เจอ “จิ้งจก 2 หัว” มี 4 ตา 4…

เจ้าของอู่ซ่อมรถ อ.บ้านโป่ง พบ “จิ้งจก 2 หัว” มี 4 ตา 4 ขา 1 หาง ลำตัวเดียวกัน เชื่อมาให้โชคลาภ แถมเลขทะเบียนรถ ยังเป็นเลขที่สลากกินแบ่งออกติดต่อกันมาถึง 3 งวดติดแล้ว

ผู้รายงานข่าวกล่าวว่า วันนี้ (25 เดือนพฤศจิกายน) ผู้รายงานข่าว ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านหลังหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง ราชบุรี พบจิ้งจก 2 หัว ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน จึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ที่บ้านหลังนี้ ได้มีการเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ บ้านเลขที่ 122/1 ม.4 ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

เมื่อทีมงานข่าวของไปถึง จึงได้พบกับ นางปัทมา จันทร์ชา อายุ 52 ปี รวมทั้ง นายเสกสันต์ เกตุนรินทร์ อายุ 56 ปี ผัวเมีย ได้พาผู้รายงานข่าวเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะนำจิ้งจกตัวเล็ก ที่เลี้ยงไว้ภายในกะละมัง ภายหลังที่บุตรสาวของตนได้พบเจอจิ้งจกตัวนี้ เดินมาไต่ที่ขา ขณะนอนเล่นอยู่บนเตียง

รวมทั้ง พบว่าจิ้งจกตัวดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มีความแปลกประหลาดเพราะเป็นจิ้งจกที่ มี 2 หัว 4 ตา 4 ขา 1 หาง ลำตัวเดียวกัน ผิวหนังสีเทา – ขาวลายขวางรอบๆขาทั้ง 4 ข้าง รวมทั้ง หาง

รวมทั้ง ยังมีชีวิต ชอบกินน้ำแดง รวมทั้ง เม็ดข้าวสุก รวมทั้ง มีความเชื่อง จับเล่น ทั้งจูบทั้งหอมได้ ซึ่งทางเจ้าของบ้าน ได้มีความคิดว่า มาให้โชคลาภ เนื่องจากว่าเลขทะเบียนรถยนต์ หมายเลข 4160 ของบ้านตัวเองนั้น ให้โชคลาภถูกเบอร์ติดต่อกัน มาจนถึง 3 งวดติดแล้ว

คุณปัทมา เล่าว่า ปกติแล้ว ตัวเองเชื่อในเรื่องสายมูเตลูอยู่แล้ว

รวมทั้ง ที่บ้านของตนก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อถือในหลายๆความเชื่อถือ อาทิ เธอกวัก กุมารเทวดา ปลัดขิก หรือ จะเป็น รกแมว ซากลูกกรอกแมว ต่อเงิน ต่อทอง คนไหนกันว่าอะไรดีหัวข้อการค้าขาย โชคลาภ ตนก็มักจะแปลงมาบูชา รวมทั้ง ก็ได้ตามที่ขอมาโดยตลอด

ส่วน จิ้งจก 2 หัว ตัวที่พบในบ้านนี้ ตนก็ไม่คิด ว่าจะมากำเนิดที่บ้านของตน เพราะเห็นแต่ว่าในข่าว พบจิ้งจก 2 หาง หรือ 2 หัว ในหลายๆจังหวัด รวมทั้ง มักจะมีเรื่องเกี่ยวกับโชคลาภต่างๆพอมาพบที่บ้านตัวเองก็รู้สึกประหลาดใจ

ด้าน น้องพลอย วัย 21 ปี บุตรสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นผู้ที่พบ กล่าวว่า เมื่อระยะเวลาราว 16.00 น. ของวันที่ 20 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ตอนที่ตนกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงไม้ ที่ใกล้กับประตูปากทางเข้าของตัวบ้าน ขณะนอนเล่นอยู่รู้สึกมีตัวอะไรไต่ที่ขา

จึงหันไปมอง จนกระทั่งพบจิ้งจกตัวเล็ก มีความแปลกประหลาดเป็นมี 2 หัว จึงเรียกแม่ให้มาดู รวมทั้ง ยังสามารถจับได้ไม่หนี มีความเชื่อง ยังเอานิ้วรูปที่หัวทั้ง 2 ได้ จึงได้เก็บไว้เลี้ยง รวมทั้ง ให้กิน ข้าวสุก ปลวก น้ำเปล่า รวมทั้ง น้ำแดง

คุณปัทมา กล่าวเพราะ ตนไม่ได้เป็นคนโง่งมงาย แต่ว่ามีความเชื่อ หากไม่พบกับตนเอง เพราะเป็นคนชอบทำบุญ ยึดมั่นอยู่ในคุณงามความดี ชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก รวมทั้ง ด้อยโอกาสถึงแม้บางเวลาจะไม่มีผู้ใดเห็น แต่ว่าตนมั่นใจว่าโชคชะตาเห็น โดยเฉพาะตนค้าขาย ก็จะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้ง ตามความเชื่อถือ มักจะสำเร็จในทุกๆเรื่อง

ส่วน จิ้งจก 2 หัว ตัวนี้ ตนมีความตั้งอกตั้งใจที่จะเก็บไว้ตราบนานเท่านานที่เขาจะอยู่กับตนได้

รวมทั้ง ไม่คิดจะขายถึงแม้มีผู้พอใจมาขอซื้อก็ตาม ก่อนหน้านี้ คนที่ทราบข่าวก็มาขอชมบ้าง ขอบูชาบ้าง รวมทั้งมีการขอเด็ดจากจิ้งจกบ้าง ซึ่งตนก็บอกไปว่าแล้วแต่บุญ รวมทั้ง โชควาสนาของแต่ละคน แต่ว่าชาวบ้านก็เชื่อกัน เพราะเลขทะเบียนรถยนต์ ที่จอดไว้ภายในบ้าน หมายเลข 4160 โดยมีชาวบ้านต่างนำไปตีเลขเด็ดซื้อรางวัล ถูกติดๆกันมา 3 งวดแล้ว ทั้งงวดที่ออกเลข 106 รวมทั้ง 64

สำหรับในงวดนี้ ตนก็มีเลขเด็ดที่คิดไว้แล้วเหมือนกันเป็น12 21 ซึ่งตรงกับเลขที่บ้าน 122/1 รวมทั้ง ยังตรงกับอายุ 21 ปี ของบุตรสาวคนเล็กที่พบจิ้งจกตัวดังที่ได้กล่าวมาแล้วด้วย แต่ว่าก็ยังคงไม่ทิ้งเลขทะเบียนรถยนต์ 4160 เพราะ พบจิ้งจก 2 หัว 4 ตา 4 ขา 1 หาง พบเวลา 16.00 น. นางปัทมา กล่าวทิ้งท้าย

ตอนที่ นายเสกสันต์ เกตุนรินทร์ สามีของคุณปัทมา เล่าว่า ตนไม่เคยห้ามภรรยา ที่มีความเชื่อในเรื่องของสายมู เพราะตนมีความรู้สึกว่าไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ได้โง่งมงาย แต่ว่าตนก็พบมาพร้อมกับตัวเอง เนื่องจากว่าตน ดำรงชีพอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งทำอาชีพนี้มากมายว่า 26 ปี แล้ว

ตอนที่ตนไม่ค่อยที่จะมีงาน หรือ งานน้อย ก็เลยมักจะมาของานกับทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งลูกกรอกแมว ต่อเงิน ต่อทอง หรือ กระทั่งกุมารเทวดา รวมทั้ง ก็จะมีงานทำตลอด สำเร็จโดยตลอด

ทุกครั้งที่มาขอ ก็จะมีของมามอบ หรือ ไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆแทน อีกทั้งใดๆก็ตามที่ภรรยาทำแล้วเขาเป็นสุข พวกเราก็เป็นสุขตามเขาไปกับด้วยเหมือนกัน ครอบครัวของพวกเราจึงอบอุ่นมาจนถึงทุกวันนี้

ผวา รองปลัด อบต. บุกกองคลัง ขู่จะก่อเหตุเหมือนหนองบัวลำภู ปมประเมินขั้นเงินเดือน

ผวา รองปลัด อบต. บุกข่มขู่กองคลัง ลั่นจะก่อเหตุราวกับหนองบัวลำภู ไม่ให้รอดแม้กระทั้งผู้เดียว ปมประเมินขั้นเงินเดือน เจ้าหน้าที่ผวาไม่เป็นอันดำเนินการ ต่างพากันหวาดระแวง และ หวาดกลัว กับการถูกขู่ในครั้งนี้ โดยส่วนมากก็จะเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย

ในคลิปเสียงดังกล่าวกำลังเป็นที่วิจารณ์อย่างมาก และ ยังสร้างความหวาดผวาให้กับทุกคนสถานที่ทำงานใน อบต.แห่งนี้ กับคลิปเสียงของรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น (22 พฤศจิกายน 65)

นี่คือคลิปเสียงของ รองปลัด อบต.แห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น ที่เจ้าหน้าที่บันทึกได้ขณะที่ รองปลัด อบต. คนนี้ได้เข้ามาที่ห้องทำงานกองคลังก่อนจะใช้ถ้อยคำข่มขู่ว่า

“ฝากไปบอก ปลัด อบต. ว่า ถ้าภายในสิ้นปีนี้ ปลัด อบต. ยังไม่ประเมินผลการปฏิบัติงานให้ หากไม่ทำเรื่องขั้นเงินเดือนย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 – 2564 จะก่อเหตุรุนแรงเหมือนที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดยไม่ให้เหลือรอดแม้แต่รายเดียว” ทำให้พนักงานที่อยู่ในห้องนั้นต่างพากันกรีดร้องตื่นตระหนกด้วยความตกใจและกังวลในเรื่องของความปลอดภัย

ผวา รองปลัด อบต บุกกองคลัง ผู้รายงานข่าวเดินทางไปยัง อบต. จุดเกิดเหตุ

โดยพบกับเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤศจิกายน 2565 เวลาราวเที่ยง รองปลัด อบต. ได้เดินทางมาที่ห้องกองคลัง แล้วบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ให้ ผู้อำนวยการกองคลัง ไปบอก ปลัด อบต. ให้เร่งรัดกระบวนการทำเรื่องขั้น เงินเดือน และ โบนัสย้อนหลังตั้งแต่ ปี 2562 – 2564 ให้แล้วเสร็จก่อนปีใหม่ แม้ไม่ปฏิบัติตามจะก่อเหตุรุนแรงราวกับที่จังหวัดหนองบัวลำภู คือการใช้อาวุธปืนสังหารพนักงาน เจ้าหน้าที่ด้านใน อบต.ทั้งหมด ไม่ให้เหลือรอดแม้สักรายเดียว

ตอนแรกนึกว่าเป็นการพุดคุยหยอกกันธรรมดาทั่วๆไป แต่ว่า เมื่อได้สนทนากันไปสักระยะแล้ว รองปลัด อบต. มีท่าทีเอาจริงเอาจัง เจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งกำลังนั่งเล่นโทรศัพทย์อยู่ จึงจับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกใจความเสียงบทสำหรับพูดในช่วงท้ายเอาไว้ได้ ก่อนที่จะรองปลัด จะเดินไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัว แล้วขับออกไปจากที่กระทำ

เจ้าหน้าที่ยังได้บอกอีกว่า ภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้นำคลิปเสียงบทสำหรับพูดไปแจ้งกับ นายก และ ปลัด อบต. เพื่อทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับทำหนังสือรายงานไปยังแคว้นอำเภอ และ นายอำเภอเมืองขอนแก่น ให้รับทราบเรื่องแล้ว ขณะที่พนักงานที่ปฎิบัติหน้าที่ จะต้องอยู่กันอย่างผวา เพราะว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ในชีวิต เพราะ รองปลัด อบต. คนนี้เป็นอดีตตำรวจ จึงมีอาวุธปืนประจำตัวด้วย

พื้นฐานได้ให้เจ้าหน้าที่ ล็อกประตูห้องทำงานทุกครั้ง เพื่อสกรีนบุคคล เข้า – ออก และ รอพิจารณาบุคคลที่เดินทางเข้ามายัง อบต.ว่าเป็นใครมาจากไหน กระทั่งพนักงาน ไม่เป็นอันดำเนินการอยู่อย่างหวาดกลัว และได้ขอพุดคุยกับนายก อบต.ว่า ถ้าหลังปีใหม่ การคาดคะเนขั้นเงินเดือน รองปลัด ไม่แล้วเสร็จ พนักงานเจ้าหน้าที่กองคลังทั้งหมด จะลางาน และ ให้ปฎิบัติงานที่บ้านแทน เพราะว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย หวาดหวั่น รองปลัด จะมาก่อเหตุราวกับที่ได้มีการข่มขู่เอาไว้เช่นนั้นจริง ๆ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ใน อบต.แห่งนี้ ทราบว่า

เรื่องราวที่เกิดขึ้นมูลเหตุมาจาก เมื่อปี 2557 รองปลัด อบต. ได้มีเรื่องขัดแย้งกับ สมาชิกสภา อบต. มีเรื่องฟ้องคดีกัน ถึงขึ้นขึ้นศาล

และ มีปัญหากับ อดีตนายก อบต. โดยทางรอง ปลัด อบต.โคกสี ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ ไม่ยินยอมส่งแบบให้คะแนนการปฏิบัติงาน เพื่อพินิจพิเคราะห์การเลื่อนขั้นเงินเดือน ตั้งแต่ปี 2562 จนกระทั่งปี 2564 โดยบอกเหตุผลว่า กลัวอดีตนายกจะแกล้ง กลัวไม่เป็นธรรมกับตนเอง

เมื่ออดีตนายกได้หมดวาระลง เมื่อสิ้นปี 2564 ปลัด อบต. จึงได้ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบต. เป็นการชั่วคราว ต่อมา รองปลัด อบต. จึงได้ยื่นแบบให้คะแนนการกระทำงาน มาพร้อมทีเดียว 3 ปี เพื่อ ปลัด อบต. ให้คะแนนงาน

ดังนี้ เพราะยังไม่มีเคสที่ข้าราชการ ไม่ยินยอมส่งแบบประเมิน เพื่อรับการคาดคะเน

เพราะว่าเหตุผลส่วนตัว ที่มีปัญหากับนายก อีกทั้งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน 3 ปี และ รองปลัด อบต. ก็ได้ส่งแบบประเมินโดยการให้แต้มตนเองมาด้วย และ เสนอให้ ปลัด อบต. มีบทบาทลงชื่อเพียงอย่างเดียว

ปลัด อบต. จึงได้ให้นักทรัพยากรบุคคล ทำหนังสือปรึกษาหารือและขอคำแนะนำ กรรมวิธีการปฏิบัติ ไปยังอำเภอ และ จังหวัดถัดไป ดังนี้ ทางปลัด อบต. ยังคอยหนังสือตอบกลับจากทางอำเภอ และ จังหวัด จึงยังมิได้ประเมินให้

โดยเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน2565 รองปลัด ได้บอกกับนักทรัพยากรบุคคล นักตรวจสอบภายใน และ นิติกร ว่าฝากไปบอกปลัด อบต. ว่า ถ้าภายในปลายปีนี้ ปลัด อบต. ยังไม่ให้คะแนนการกระทำงานให้ จะมีเหตุรุนแรงราวกับที่จังหวัดหนองบัวลำภู ให้ระวังเนื้อระวังตัวไว้ และ ต่อมาอีก 2 วันหมายถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 รองปลัดได้ไปที่ห้องกองคลัง และ ได้พูดจาข่มขู่ เจ้าหน้าที่ ตามคลิปเสียงที่เจ้าหน้าที่ได้บันทึกเสียงไว้

“Joy Ride” ธุรกิจเพื่อความอิ่มใจ ไม่ใช่เม็ดเงิน

Highlight:  “Joy Ride” ธุรกิจเพื่อความอิ่มใจ ไม่ใช่เม็ดเงิน ธุรกิจแนวใหม่ของ “จอย – ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร” ที่ลาออกจากงานประจำ หลังจากทราบว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า และก็ เริ่มทำบริการรับส่งคนวัยชราไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลสมาชิก ที่สมัครเข้ามาร่วมกลุ่ม ล้วนแต่มีความต้องการที่ต้องการจะช่วยเหลือคนวัยชรา ก็เลยไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะตัดสินใจเข้ามาปฏิบัติภารกิจ “ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น”

ส่วนสำคัญของบริการ คือความรักสำหรับในการบริการ ซึ่งเว้นแต่ผู้ให้บริการจะต้องมีความพร้อมในเรื่องเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวก และก็ ด้านร่างกายแล้ว ความพร้อมด้านจิตใจ และก็ ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้รับบริการ ก็ เป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากผลกำไรที่จะได้รับจากวิธีการทำธุรกิจ สิ่งที่กลุ่ม ได้รับในทุกหน ๆ ที่ทำงาน คือ “ความอิ่มใจ” ที่ได้ช่วยเหลือ และก็ สร้างรอยยิ้มให้คนวัยชราได้

ในโมงยามที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างเต็มรูปแบบ ประเด็นเรื่องสุขภาพ และก็ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนวัยชราถูกเสนอขึ้นมาพูดถึงอย่างมากมาย

รวมทั้งหลายข้างก็พยายามหาแนวทางสำหรับในการต่อกรกับสังคมคนวัยชราอย่างเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม และก็ มีประสิทธิภาพ ภาคธุรกิจเองก็เริ่มมีผลิตภัณฑ์ และก็ บริการที่ตอบโจทย์คนวัยชรามากขึ้นด้วย

เช่นเดียวกับบริการ ของ จอย – ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร ที่เริ่มจากการรับส่งคนวัยชราไปโรงพยาบาล มาสู่บริการ “ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น” ที่ทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ที่คนวัยชราขอ ถึงแม้สิ่งตอบแทนที่ได้จะยังไม่ใช่จำนวนเงินเยอะๆ

แต่ “ความอิ่มใจ” คือกำไร ที่กลุ่มได้รับเสมอ และก็ นี่คือเรื่องราวของ “Joy Ride ไม่ใช่แท็กซี่ แต่คือ Nanny for Adult”

ออกสตาร์ทกับ Joy Ride

“จุดเริ่มต้นของบริการ ของเรา เป็นเพราะปีที่แล้ว จอยเริ่มมีอาการเบิร์นเอาท์จากการทำงาน เราก็ไปหาคุณหมอ คุณหมอเลยวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าระยะแรก แล้วสิ่งที่เห็นก็คือว่า ออกมาจากห้องคุณหมอ เราเห็นผู้สูงวัยที่พาผู้สูงวัยมาโรงพยาบาล แล้วบางคนก็เป็นผู้สูงวัยที่มาโรงพยาบาลคนเดียว ในวันนั้นทำให้จอยรู้สึกว่า อยากลาออกจากงาน เพื่อมาเยียวยาตัวเอง เลยคิดว่างั้นเรามาทำบริการพาผู้สูงวัยไปหาหมอดีไหม เพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานออฟฟิศ” จอยเริ่มต้นเล่าถึงจุดเริ่มต้น

หลังจากตัดสินใจออกมาเริ่มทำธุรกิจ เธอก็เจอปัญหาใหญ่โดยทันที นั่นคือ “การระบาดของโรคโควิด-19” ที่ทำให้บริการรับส่งคนวัยชราไปโรงพยาบาลจำเป็นต้องหยุดชะงัก แต่ จอย ก็ไม่เลิกล้มความตั้งใจ จนถึงได้ให้บริการลูกค้าคนแรกซึ่งเป็นคุณลุงที่อยากเดินทางกลับไปอยู่บ้านหลังหายจากโรคโควิด-19 และก็ นั่นคือโมเมนต์ตัดริบบิ้นของบริการ “ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น” ที่เข้าไปนั่งในใจผู้รับบริการผมสีดอกเลามากมายก่ายกอง

“เราก็ทำเป็นแคมเปญ “Welcome home พาคุณกลับไปหาบ้านที่คุณรัก และคนที่คุณคิดถึง” รับผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 กลับบ้าน ลูกค้าคนแรกก็เป็นคุณพ่อ คนที่สองก็เป็นคุณแม่ คนที่สามก็เป็นวัยรุ่นเลยค่ะ เพราะลูกสาวต้องดูแลให้ทั้ง 3 คน ได้กลับบ้าน ก็เลยกลายเป็นว่า 3 เคสแรกก็ไม่ใช่การพาไปหาหมอ แล้วก็มีทั้งคนที่ไม่ได้เป็นผู้สูงวัยด้วย”

“แม้จะเป็นการพาผู้สูงวัยไปหาหมอ แต่ลูกค้าก็จะมีทั้งคนท้อง เด็ก คนพิการ แล้วบริการของเราไม่ใช่แค่พาไปโรงพยาบาลอย่างเดียว มีไปวัด ไหว้พระ ทำบุญ พาไปเที่ยว พาไปงานแต่งงาน พาไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปนอนที่บ้านเป็นเพื่อน พาไปดูดวง พาไปทำบุญบังสุกุลเป็น – บังสุกุลตาย พาไปเดินแฟชั่นโชว์ คือมีเยอะมาก” จอยเล่า

Joy Ride ทัศนคติผู้บริการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม

หลังจากเริ่มธุรกิจ จอยก็ได้พบกับ หญิง – นุชนาถ ขินทอง และนิน – ญาณิน สวัสดิ์ชัย ในกรุ๊ปเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง และก็ ทั้งสองคนก็กลายมาเป็น “ทีมหลังบ้าน” ของบริการ ที่มาร่วมงานกันด้วยหัวใจ แม้ทีแรก ๆ จะมิได้รับค่าแรงงานก็ตาม

“ตอนนั้นเป็นช่วงที่พี่จอยกำลังตัดสินใจว่าจะไปต่อกับธุรกิจนี้ดีไหม ความรู้สึกแรกคือเราอยากให้กำลังใจเขา ก็เลยทักไปคุยให้กำลังใจ คือเราอาจไม่เคยทำตรงนี้มาก่อน แต่เรานึกถึงตอนที่เราดูแลอาม่าของเรา เราพอเข้าใจได้ ว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันต้องการคนที่ใส่ใจจริง ๆ จากที่อยากให้กำลังใจเขา คุยไปคุยมาก็เลยกลายเป็นคลิกกัน แล้วเราก็อยากจะใช้ความรู้ของเราที่พอจะทำได้มาสนับสนุนเขา ก็เลยยาวมาจนถึงตอนนี้” นินกล่าว

เมื่อเราเริ่มมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และก็ มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น ก็เปิดรับสมาชิกเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด ของกลุ่มให้บริการคนวัยชรา ซึ่งตัวแทนจากกลุ่มอีกทั้ง 3 คน ตัวอย่างเช่น หนุงหนิง – ยุพร เสรียิ่งยศ, นุช – ชมพูนุช วิวัฒน์ทระผล และวิ – ธนัญกรณ์ คลังเปรมจิตต์ ก็เล่าว่า

ไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับในการตัดสินใจ มาร่วมทำงานกับเรา เพราะว่า พวกเขามีความคิดว่าบริการนี้เหมาะกับบุคลิกลักษณะนิสัยของตัวเอง ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือคนวัยชรา ซึ่งอีกทั้ง 3 คน เห็นว่าตัวเองสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม

“เราไม่ได้กำหนดเกณฑ์ว่าคุณต้องมีใบรับรอง ต้องผ่านการปฐมพยาบาล หรือการดูแลผู้สูงอายุมากี่ชั่วโมง เราไม่ได้ว่ากระดาษใบนั้นมีผลอะไรกับเรา อย่างแรกเลยคือเราจะพูดคุย ดูว่าเขามีความสุขในตัวเองมากน้อยแค่ไหน คือมันสำคัญมากว่า ถ้าเรามีความสุขแล้ว เราจะส่งต่อให้ผู้สูงอายุได้ยังไง ให้เขามีความสุขไปกับทุก ๆ การเดินทางของเรา โดยเราจะมีคำถามในเชิงจิตวิทยา เป็นคำถามปลายเปิดว่าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ คุณจะทำอย่างไร แล้วก็มีไปทำงานด้วยกันเลย เราก็จะเห็นว่าแต่ละคนมีความใส่ใจหรือกระตือรือร้นมากแค่ไหน” หญิงอธิบายเรื่องระบบคัดกรองสมาชิกของเรา

บริการที่ใช้หัวใจ และก็ ความเข้าใจ

ส่วนสำคัญของบริการเรา คือความรักสำหรับในการบริการ ซึ่งเว้นแต่ผู้ให้บริการ จะต้องมีความพร้อมในเรื่องเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวก และก็ ด้านร่างกายแล้ว ความพร้อมด้านจิตใจ

และก็ ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้รับบริการก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่กลุ่ม Joy Ride ทุกคนจำเป็นต้อง รำลึกอยู่เป็นประจำ

“จุดเริ่มต้นของ Joy Ride ที่ไปรับไปส่ง ไปดูแลที่โรงพยาบาล แต่ตอนนี้มันกลายเป็นมีหลายบริการที่เราสามารถช่วยเหลือ หรือทำให้เขารู้สึกเห็นคุณค่าของตัวเอง ไม่ได้รู้สึกว่าเขาถูกทอดทิ้ง ไม่ได้โดดเดี่ยว” นินชี้

“สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความเข้าใจ ว่าสำหรับผู้สูงวัยนั้น ด้วยภาวะร่างกายก็ดี ด้วยความชราก็ดี ด้วยอายุที่มากขึ้น ที่เขาไม่สามารถเดินเหิน หรือกระฉับกระเฉงได้เหมือนเดิม ถ้าเรามีความเข้าใจเรื่องความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แล้วเราก็เข้าใจว่า ผู้สูงวัยส่วนหนึ่ง ไม่ใช่แค่ป่วยกาย แต่คือความเหงาใจ เราก็จะช่วยลดช่องว่างตรงนี้ แล้วก็ง่าย ๆ คือรับฟัง แต่เราฟังเขาเยอะ ๆ ว่าเขาต้องการอะไร แล้วเราก็ดูว่าสิ่งนั้น เราสามารถให้ได้ไหม ถ้าให้ได้ ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพเขา นั่นก็ทำให้เขาเบิกบานได้แล้วในหนึ่งวัน” จอยระบุ

ความอิ่มเอมใจคือกำไรที่ได้รับ

แม้จะเป็นบริการที่มี “ค่าใช้จ่าย” และก็ ผู้ให้บริการก็หวังที่จะได้รับ “ผลกำไร” เป็นจำนวนเงิน แต่สำหรับกลุ่ม Joy Ride กำไรที่ได้รับกลับมีมากยิ่งกว่าเรื่องของจำนวนเงิน เนื่องจากพวกเขาได้รับ “ความอิ่มเอมใจ” ในเมื่อใดก็ตามได้ปฏิบัติภารกิจ ลูกรับจ้างและหลานจำเป็น

“พี่เจอคุณพ่อท่านหนึ่ง แกเป็นพาร์กินสันและเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาท แกก็เดินไม่ค่อยได้ วันที่เจอกันครั้งแรก ๆ แกก็น่ารัก คือบางทีเรารู้สึกว่าพอเป็นครั้งแรกที่มาเจอคนแปลกหน้า แทนที่เราจะเป็นคนให้กำลังใจเขา บางทีเขาก็พูดจาดีกับเรา ให้กำลังใจเรา ชมเรา เราไม่คิดว่าคนแปลกหน้าที่มาด้วยกันแบบนี้ เขาจะยังคิดถึงเรา ไม่ได้คิดแค่ว่าเราต้องไปดูแลเขา” หนุงหนิงเล่าความประทับใจมากการทำงานให้เราฟัง

เช่นเดียวกับหญิง และก็ วิ ที่สะท้อนว่า เพียงแค่ได้มองเห็นรอยยิ้มของคนวัยชราที่ตัวเองได้มีโอกาสดูแล ก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากมาย ๆ แล้ว เช่นเดียวกับคำบอกเล่าของคนวัยชรา ที่บางครั้ง ทำให้พวกเขาถึงกับน้ำตาซึม

“ตอนเราไปส่งที่บ้าน เขาก็จะบอกว่าขอบคุณหนูมากนะ ถ้าวันนี้ไม่มีหนูก็แย่เลย หรือวันนี้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยของพี่มากเลย พี่ขอบคุณมากนะ หรือไม่งั้นก็จะเป็นคุณลูกที่โทรมา บอกว่าคุณแม่ไม่เคยชมใครเลยนะคะ ขอบคุณมากจริง ๆ ที่ดูแลแม่ให้เป็นอย่างดี” นุชบอก

“มีคุณป้าท่านหนึ่ง เป็นลูกค้าที่ใช้บริการของเราเยอะมาก คุณป้าไม่มีลูก ไม่มีหลาน อยู่กันเองกับผู้สูงวัย คุณป้าบอกกับจอยว่า ตั้งแต่ป้าได้รู้จัก Joy Ride มันทำให้ชีวิตป้ามีชีวิตชีวา เขาบอกว่า you light up my life ในวันที่ป้าอายุขนาดนี้ ป้าไม่อยากทำอะไรแล้ว ป้าไม่อยากไปไหนแล้ว ป้าเบื่อ แต่พวกหนูทำให้ชีวิตของป้ามีสีสัน แล้วก็อยากกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง เราก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ แล้วเขาก็บอกขอบคุณจอยมากที่ทำบริการแบบนี้ มันเป็นบริการที่เขารอคอย แล้วก็คิดว่ามันตอบโจทย์มาก ๆ โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ไม่มีลูกหลาน” จอยเล่าเสริม

ธุรกิจเพื่อคนวัยชราในสังคมไทย

เมื่อสังคมก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” ธุรกิจ Joy Ride ก็เลยเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่กำลังเติบโต ในสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยคนวัยชรา แต่นอกจากผลกำไรที่จะได้รับจากวิธีการทำธุรกิจ การได้ช่วยเหลือคนวัยชรา พร้อม ๆ กับ การผลิตสังคมที่พร้อมจะดูแลคนเหล่านั้น ก็คงเป็นอีกโจทย์สำคัญ ของคนสมัยใหม่เดี๋ยวนี้

“ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โต แล้วก็หลาย ๆ องค์กรที่มองว่าไอเดียของเราดีนะ แต่ธุรกิจของเรายังสร้างมูลค่าไม่ได้ แต่เราก็อยากสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป เราได้เรียนรู้ระหว่างทาง ว่าสำหรับธุรกิจนี้ การบริการผู้สูงอายุ การดูแลคนที่เขาต้องการการดูแล มันยังต้องมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่สามารถมาเสริมพลังของเราได้ ก่อนที่เราจะไปสร้างมูลค่าขนาดนั้น ซึ่งเราก็หวังนะ ไม่ใช่ว่าเราไม่หวังว่าว่าจะไม่โต” นินอธิบาย

“ในช่วง 3-4 เดือนแรก จอยคิดทุกวันที่จะหยุดให้บริการ เพราะว่าทุกเดือนมันขาดทุน แต่สิ่งที่จอยได้รับคือทุกวันมันกำไร คำพูดที่ลูกค้าบอกว่าทำต่อนะ บริการนี้ดีมาก ๆ เลย มันทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเราหยุด เราจะไม่ได้ทำให้ตัวเองผิดหวัง แต่มันทำให้อีกหลาย ๆ ครอบครัวรู้สึกผิดหวัง เราเลยรู้สึกว่า ถ้าเราทำบริการให้ดีได้ สุดท้ายมันจะประสบความสำเร็จ คือผู้สูงวัยจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แล้วในสังคมไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแบบเต็มขั้น การที่เราได้เป็นส่วนช่วยเติมเต็มช่องว่างตรงนี้ เป็นเหมือนสะพานมนุษย์ เชื่อมระหว่างบ้านกับโรงพยาบาล มันทำให้เรารู้สึกว่า งานที่เราทำมีคุณค่า” จอยกล่าวสรุป

“Flavorful No Sugar Ice Cream” ไอศกรีมไร้น้ำตาล แต่หวานจากความรัก

Flavorful No Sugar Ice Cream เป็นไอติมเจลาโตไร้น้ำตาล ที่เกิดขึ้นจากความรักในไอติมและก็ความตั้งใจที่จะดูแลสุขภาพของสันติสุข และก็สิริกัญญา กาญจนประกร ไอศกรีมไร้น้ำตาล

-ข้อดี ของ ไอติมไม่มีน้ำตาลแบรนด์นี้ คือรสที่แปลกใหม่ และก็ หลากหลายวัตถุดิบปลอดสารพิษ และก็การจัดส่งที่คิดถึงความสดใหม่ของไอศกรีม

-ถึงแม้ว่าไอติม จะมีราคาสูง เหมือนกันกับอาหารสำหรับคนรักสุขภาพอื่น ๆ แต่สันติสุขและก็สิริกัญญาก็มุ่งหวังให้ไอศกรีมของพวกเขาสามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้ เนื่องจากว่าคนทุกคนควรเข้าถึงอาหารสำหรับคนรักสุขภาพได้ ไม่ใช่แค่คนมีฐานะแค่นั้น

สำหรับคนยุคใหม่ สุขภาพถือเป็นประเด็นสำคัญ ที่จำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแล อย่างเป็นจริงเป็นจัง อาหารสำหรับคนรักสุขภาพ จึงได้รับความนิยมมากขึ้น แม้แต่อาหารหวาน ก็ยังจำเป็นต้องลดความหวาน เพื่อจูงใจคนรักสุขภาพ และก็ ท่ามกลางกระแสอาหารสำหรับคนรักสุขภาพและก็ อาหารหวานน้อย ไอติมโฮมเมดเจลาโต ไม่ผสมน้ำตาลอย่าง “Flavorful No Sugar Ice Cream” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความสามารถ และก็ หัวใจของสันติสุขและก็สิริกัญญา กาญจนประกร ที่ก้าวจากงานสื่อสารมวลชน และก็ แวดวงวรรณกรรม มาสู่อีกหน้าที่หนึ่ง คือการเป็นเจ้าของธุรกิจไอติมเพื่อสุขภาพ

ไอศกรีมไร้น้ำตาล จุดเริ่มต้นจากความรัก

สำหรับสันติสุข และก็ สิริกัญญา ไอติมสื่อความหมายต่อชีวิตของพวกเขาในมุมที่แตกต่างกัน โดย สันติสุขเล่าว่า ไอติม ถือเป็นสหายในยามโศกสลดของเขา

“เวลาที่เราหงุดหงิด เครียด หรือจิตตก สิ่งแรกที่เรานึกถึงเลยก็คือไอศกรีม แล้วกินทีก็จะกินเยอะ เพราะรู้สึกว่าความเย็น ความหวาน ความอร่อยของมันจะช่วยบรรเทาข้างในของเราให้ผ่อนคลาย สงบลง”

ทว่า สิริกัญญา กลับมิได้หลงใหลไอติม เท่ากับฝั่ง สามี แต่ ไอติม ก็สื่อความหมายกับ เธอ ด้วยเหมือนกัน

“มันมีความหมาย เพราะว่าเขาชอบกิน แล้วเราเป็นคนชอบทำ เราก็เลยอยากทำสิ่งที่เขาชอบกิน” สิริกัญญากล่าว

อาจจะกล่าวว่าไอติม Flavorful No Sugar Ice Cream ถือกำเนิดขึ้นจากความรักของคนทั้งคู่ เนื่องจากว่าสิริกัญญา เล่าว่า ความคิดที่จะทำไอติมไม่มีน้ำตาล เกิดขึ้นในวันที่สันติสุข จำเป็นต้องเข้ารับการดูแลรักษาตัว ในโรงพยาบาลด้วยโรคประจำตัว และก็ ยาที่กินทำให้ค่าน้ำตาลในเลือด สูงขึ้น ซึ่งก็หมายความว่า สันติสุขจำเป็นต้อง ควบคุมการบริโภคน้ำตาล ซึ่งบางทีอาจจะ จำเป็นต้องห่างหายจากไอติมสุดท้าย

“เขาก็อยากกินไอศกรีม ช่วงนั้นไอศกรีมไม่ผสมน้ำตาลยังมีไม่มากเท่าไร เราก็ไปลองชิมหลายๆ เจ้า เรารู้สึกว่ามันก็อร่อย แต่ว่าเนื้อสัมผัสมันยังไม่ถูกใจเรา เราก็เลยคิดว่า ถ้าวันหนึ่งมีโอกาส เราอยากจะลองทำเอง” สิริกัญญาเล่าถึงก้าวแรกสู่วงการไอติม

จากนั้น สิริกัญญา ได้เรียนทำไอติมเจลาโตสูตรธรรมดา และก็ค่อย ๆ พัฒนาสูตร ไปเป็นไอติมไม่มีน้ำตาล ด้วยตัวเอง พร้อมๆกับการทำงานบรรณาธิการหนังสือไปด้วย ซึ่งขั้นตอนทั้งผองใช้เวลานานถึง 2 ปี ตราบจนกระทั่งได้เปิดร้านออนไลน์ในช่วงเวลากลางเดือน ธันวาคม ปี 2020 ซึ่งตรงกับช่วงล็อกดาวน์ โควิด-19 ระลอก ลำดับที่สอง โดยในระยะแรก สันติสุขและก็ สิริกัญญา จะขับขี่รถไปส่งไอติม ให้ถึงมือลูกค้าทุกคนด้วยตัวเอง จากความรัก และก็ ความตั้งใจ ในไอศกรีม ที่ทั้งคู่ได้ปลุกปั้นมา

“เราทำเพราะว่าเริ่มต้นจากการที่เราอยากจะดูแลสุขภาพตัวเองก่อน แล้วรสชาติต่างๆ ก็เป็นรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เราที่เป็นคนรักไอศกรีมชอบจริงๆ ในยุคสมัยใหม่ พอองค์ความรู้ทางด้านโรคเกี่ยวกับเบาหวานหรือเกี่ยวกับการกินมันเพิ่มมากขึ้นแล้ว คนรุ่นใหม่ก็ตระหนักในเรื่องพวกนี้ เราก็คิดว่ามันน่าจะมีคนที่รักสุขภาพเหมือนเรา แล้วก็คนที่รักไอศกรีมเหมือนเรา เราก็อยากจะทำออกไปให้กับคนที่คล้ายๆ เรากิน ถ้าเราอร่อย เขาก็ต้องอร่อยเหมือนเราด้วย” สันติสุขกล่าว

14 รสของคนรักสุขภาพ

ไม่ใช่แค่การเป็นไอติมไม่ผสมน้ำตาลแค่นั้น ข้อดีของ Flavorful No Sugar Ice Cream คือไอติม ถึง 14 รส ที่ประกอบด้วย รสคลาสสิกยอดนิยม และก็ รสใหม่ ที่สันติสุขและก็ สิริกัญญา สร้างสรรค์ขึ้นเอง ไม่ว่าจะเป็น Cottage & Parmesan Crunch ไอติม รสชีสหอม โรยด้วยขนมปังกรอบ Celery Mint & Green Apple ไอติม รสคื่นช่ายผสมมินต์ และก็ แอปเปิ้ลเขียว ที่ให้ความมีชีวิตชีวา และก็ รสแปลกใหม่ เอาใจคนชอบรับประทานผัก หรือ Fig & Cinnamon ซึ่งเป็นการผสมผสานกัน ระหว่างลูกฟิกกับอบเชย ได้รสหอมหวานกระทั่งแฟน ๆ คนจำนวนไม่น้อยต้องอวยยศให้

“ผมชอบรสชีสครับ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เพราะว่าเป็นรสที่คิดขึ้นมาเอง เป็นการผสมระหว่างคอตเตจชีสกับพาร์เมซานชีส ซึ่งจะได้กลิ่นหอมเหมือนที่เราใช้โรยพิซซ่า แล้วก็จะมีครัมเบิล เวลาเคี้ยว อร่อยครับ” สันติสุขพูดถึงไอติมรสโปรดที่เขาชอบ ชี้แนะ ลูกค้าอยู่ตลอด

“ส่วนเราชอบรสคื่นช่าย ก็คิดขึ้นเองเหมือนกัน จากพื้นฐานของคนที่ไม่ได้ชอบกินคื่นช่าย อยากทำให้พี่โอ๊คกินแหละ พูดง่ายๆ เนี่ย ลดความดัน มีประโยชน์นะ แอปเปิ้ลก็ลดความอ้วน ก็ลองทำดู แล้วก็จะดูว่าตัวเองกินได้ไหม ถ้าตัวเองกินได้ก็แปลว่าอร่อย เพราะว่าเราไม่ชอบไง ทำครั้งแรก อุ๊ย… กินได้ เอาเลยรสนี้ เอาเลย” สิริกัญญาเล่าบ้าง

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้สำหรับทำไอติม สิริกัญญา เป็นผู้คัดด้วยตัวเอง เพราะเหตุว่า เป็น ผู้ที่มุ่งมั่นกับเรื่อง อาหาร บวกกับมีเพื่อนพ้องที่เป็นเจ้าของ แหล่งผลิตวัตถุดิบอยู่แทบทั่วราชอาณาจักร ทั้งลูกฟิกจากฟาร์มออร์แกนิก ของสหายใน จ.ฉะเชิงเทรา เม็ดมะม่วงหิมพานต์จากบ้านสหายที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำให้สามารถคัดวัตถุดิบปลอดสารพิษ และก็ มีคุณภาพได้มากพอสมควร

“มีรสข้าวเหนียวดำ-ถั่วดำ เราก็สั่งข้าวจากกลุ่มชาวนาไทยอีสาน ที่เขาเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษ แล้วเขามีพันธุ์ข้าวที่เราจะไม่ค่อยได้ยินกันในชีวิตประจำวันปกติ เช่น เราใช้ข้าวเหนียวดำสีลาภรณ์ ซึ่งจะมีกลิ่นของข้าวเหนียวดำที่ชัดมาก เหมือนกินขนมเลย” สันติสุขกล่าวเสริม

นอกจากวัตถุดิบ ที่มีคุณภาพแล้ว Flavorful No Sugar Ice Cream ยังมีคุณลักษณะเด่นที่ความสดใหม่ โดยจะรับออร์เดอร์ทุกสัปดาห์ และ ไม่ทำสต็อกไอติม เพื่อลูกค้าได้สัมผัสรสแสนอร่อย เสมือนเพิ่งจะออกมาจากเครื่องปั่น

“ถ้าได้ชิมไอศกรีมตอนที่มันปั่นออกมาจากเครื่องใหม่ๆ มันอร่อยมากๆ เลยน่ะ เราอยากจะให้ลูกค้าได้ทานไอศกรีมที่มีรสชาติใกล้เคียงที่สุดกับตอนที่ปั่นเสร็จใหม่ๆ อย่างน้อยก็ปั่นเสร็จ 2 – 3 วัน ก็ถึงมือลูกค้าแล้ว เราอยากให้ได้ความสดใหม่แบบนั้น” สันติสุขเล่า

ธุรกิจที่เริ่มจากความรัก

เมื่อถามถึงข้อดีของการเริ่มทำธุรกิจจากสิ่งที่รัก สิริกัญญา พูดว่า เธอ รู้สึกแฮปปี้ กับ แนวทางการทำไอติมพอๆกับในขณะที่ทำงานหนังสือ ด้วยลักษณะงานที่ทำอยู่ภายในห้องเงียบๆผู้เดียวเช่นกัน แม้ว่าจะเต็มไปด้วยขั้นตอนที่สลับซับซ้อน ยุ่งยาก แต่ เธอก็ค่อย ๆ ทำเป็น

“พอทำแล้วก็รู้สึกว่าเดี๋ยวเราต้องคิดรสใหม่ๆ ขึ้นมาอีก เพราะว่าลูกค้าประจำเรากินครบทุกรสแล้ว คืออยากจะแยกร่างเพื่อทดลองสูตรใหม่ รสใหม่ๆ ให้ได้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้น” สิริกัญญากล่าว

ด้านคนรักไอติมสุดหัวใจอย่างสันติสุข ก็พูดว่า เขารู้สึกรักไอติมมากเพิ่มขึ้น ด้วยรายได้ และก็ ความสนุกสนานร่าเริงในการเรียนรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ ที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

“เราทำการตลาดแบบ… จะใช้คำว่าลูกทุ่งก็ได้ ทำแบบใช้สัญชาตญาณ ใช้ความรัก ใช้ความจริงใจในการสื่อสารให้มากที่สุดครับ” สันติสุขกล่าว

อาหารสำหรับคนรักสุขภาพต้องเป็นเรื่องของทุกคน
ถึงแม้ จุดประสงค์หนึ่งของแนวทางการทำธุรกิจไอติมไม่มีน้ำตาล คือการส่งต่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงให้กับลูกค้า {แต่|แต่ว่า|แม้กระนั้น สิริกัญญา ก็สารภาพว่า ไอติมของเธอ และก็ สามี ยังไม่สามารถกระจายไปสู่คนทุกกลุ่มได้ ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะเหตุว่า วัตถุดิบที่เป็นออร์แกนิกแทบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกันกับอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ ประเภทอื่น ๆ

“การดูแลสุขภาพมันก็เป็นต้นทุน อย่างเรื่องอาหารการกินที่ดี เป็นเรื่องออร์แกนิก ราคามันจะกระโดดมาอีกระดับหนึ่งเลย ซึ่งถ้าพวกนี้สามารถทำให้เป็นเรื่องปกติได้ ทุกคนก็จะมีโอกาสในการรักษาสุขภาพมากขึ้น คือไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยเท่านั้น ฉันถึงจะสุขภาพดี คนทั่วไปก็มีโอกาสจะสุขภาพดีได้เท่าๆ กัน”

“เราก็อยากจะขยายตลาดให้มันกว้างขึ้น ซึ่งมันหมายถึงว่าเราอยากทำให้ราคาถูกลง ซึ่งการที่จะทำให้ราคามันถูกลงได้ หมายความว่าเราต้องทำให้มันเป็นอุตสาหกรรมหรือเปล่า เราไม่แน่ใจ มันอาจจะกลับไปที่ว่า ถ้าภาครัฐมีนโยบายหรืออะไรที่เกี่ยวกับการสนับสนุนอาหารสุขภาพให้มันเป็นอาหารปกติได้ เราก็จะมีโอกาสที่จะเห็นผลิตภัณฑ์แนวนี้มากขึ้น ในราคาที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้” สิริกัญญาทิ้งท้าย

สลด เกิดเหตุ ไฟไหม้ บ้านพ่อแม่ลูก 3 ศพ กอดกันเสียชีวิตในห้องน้ำ แมว-หมา ตายอีก…

นักข่าวกล่าวว่า วันนี้ เกิดเหตุ ไฟไหม้ บ้านตอนดึก พบ บิดามารดา และก็ลูก 1 ขวบ นอนกอดกันเสียชีวิตในห้องน้ำ แมว-สุนัข ถูกไฟคลอกตายอีก 12 ตัว
เหตุเกิดเพลิงไหม้บ้านเกิดขึ้นในตอนตอนดึก เวลาประมาณ 01.45 น. วันนี้ ( 15 พ.ย.65) ร.ต.อ.ศาสตรา สีเข็ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้าน และตนก็เลยได้รีบรุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ ดังที่กล่าวถึงมาแล้วเกิดขึ้นข้างในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กลุ่ม 3 ต.ลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จ.จังหวัดปทุมธานี ก็เลยประสานให้ระดมกลุ่มรถยนต์ฉีดน้ำดับไฟจาก หน่วยงานใกล้เคียง ปริมาณ 3 คัน พร้อมเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุเลาสาธารณภัย เทศบาลตำบลธัญบุรี และก็อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

สำหรับในที่เกิดเหตุ ไฟไหม้ นั้นเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ประกอบกิจการรับซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศบ้าน

และก็เครื่องใช้ไฟฟ้า บ้านเลขที่ 99/294 ม.3 ต.ลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จ.จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมือวางอยู่เต็มบ้าน พบแสงไฟกำลังโหมลุกโหมอย่างหนักพร้อมด้วยเสียงระเบิดที่ดังขึ้นเป็นระยะๆเจ้าหน้าที่ก็เลยจำเป็นต้องระดมรีบฉีดน้ำเพื่อสกัดไฟไม่ให้ลุกรามไปยังบ้านข้างเคียง โดยใช้เวลาร่วมๆประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ไฟก็เลยสงบลงได้

จากการตรวจในเบื้องต้น ก็เลยพบผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย ลักษณะที่คล้ายนอนกอดกันอยู่ข้างในห้องน้ำ ทราบชื่อเป็น นายสิงห์คนอง อายุ 43 ปี (ช่างเครื่องปรับอากาศ) พร้อมภรรยา นางละออง อายุ 40 ปี และก็ ลูกชายชื่อ ด.ช.สินมหัต นวนมะ อายุ 1 ปี ซึ่งทั้งสิ้นเป็นบิดามารดาลูกกัน นอกจากนั้น ยังตรวจพบสัตว์เลี้ยงอีกปริมาณ 12 ตัว ซึ่งเป็นแมวที่ถูกไฟคลอก 11 ตัว และก็หมาอีก 1 ตัว

นายจรัญ สุทธิสนธิ์ เจ้าหน้าที่ทุเลาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลธัญบุรี พูดว่า ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเพลิงไหม้อาคารบ้านเรือนประชาชน ซึ่งในตอนที่นักผจญเพลิงได้มาถึงนั้นไม่อาจจะเข้าไปด้านในได้แล้วด้วยความที่มีประตูเหล็กได้พังทลายลงมาปิดขัดขวางทางเข้าเอาไว้ ก็เลยทำได้เพียงแต่ช่วยกันฉีดน้ำสกัดแล้วนำเหล็กออกมา ก่อนที่จะสามารถดับไฟได้

ต่อจากนั้นก็เลยได้เข้าไปตรวจด้านในตัวบ้าน และก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตปริมาณ 3 ราย อยู่ในลักษณะนอนกอดกันอยู่ข้างในห้องน้ำ ซึ่งอีกทั้งสามรายไม่ได้ถูกไฟครอกอะไร แต่ว่าปัจจัยการเสียชีวิตน่าจะมีต้นเหตุที่เกิดจากการสูดดมควันเข้าไปจำนวนมากก็เลยกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการสำลักควันและก็ขาดอากาศหายใจในที่สุด โดย ไฟไหม้ จากด้านนอกแล้วก็ลุกลามเข้าไปด้านใน เนื่องจากด้วยความที่สภาพบ้านด้านนอกถูกไหม้เสียหายมากมาย ส่วนในตัวบ้านด้านในยังคงมีสภาพดีมากกว่าด้านนอก

จากการไต่ถาม นางสาววรรณิษา นกกาศักดิ์ อายุ 35 ปีผู้พบเห็นเหตุการณ์ ได้พูดว่า

เหตุอัคคีภัยได้เกิดขึ้นเวลาประมาณเที่ยงคืนซึ่งตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา ก็เลยรีบออกมาดูปรากฏว่ามองเห็นไฟได้ลุกโหมที่บ้านของช่างเครื่องปรับอากาศพร้อมรถยนต์ ข้างในบ้านหลังนั้นได้มีผู้อยู่อาศัยปริมาณ 3 คน เป็นบิดามารดาลูก และก็ได้ติดอยู่ข้างในบ้านซึ่งคาดว่าไม่สามารถที่จะออกมาได้ด้วยความที่ทั้งบ้านมีเหล็กดัดเกิบทั้งหลังแถมยังมีเครื่องไม้เครื่องมือ ในการจัดตั้ง แล้วก็ ซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศบ้าน ที่เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยมก็เลยกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้

ทางด้าน นางสาวฉัตรกมล อายุ 30 ปี เพื่อนบ้านจุดเกิดเหตุ พูดว่า ตัวเองได้ตื่นลุกขึ้นมาเพื่อจะมาเข้าห้องสุขา แล้วได้ยินเสียงคนคุยกัน ก็เลยได้เดินไปเปิดผ้าม่านดูจากหน้าต่างก็มองเห็นเเสงไฟเต็มไปหมด ซึ่งแสงสว่างนั้นมาจากบ้านของช่างเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากบ้านเขามีแต่วัสดุไวไฟทั้งนั้น โดยไฟได้โหมไหม้จากทางหน้าบ้านเข้าไปข้างในตัวบ้าน ทีแรกๆตัวเองก็คิดว่าพี่ผู้ชายทำงานอยู่หน้าบ้าน เนื่องจากพี่ผู้ชายเป็นคนขยันทำงานถึงตี 1 ตี 2

และก็ภายหลังจาก เหตุไฟไหม้ ตนก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

เหตุเพราะไฟแรงมาก ไม่มีใครเข้าไปใกล้ได้เลย ก็เลยได้รีบโทรแจ้งนักผจญเพลิง แล้วได้วิ่งออกไปบอกชาวบ้านให้มาช่วยกัน โดยตัวเองแจ้งดับไฟไปไม่ถึง 10 นาที รถดับเพลิงก็มาไวมาก

นางสาวฉัตรกมล เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิต ยังได้กล่าวอีกด้วยว่า โดยนิสัยใจคอของคนบ้านนี้เป็นคนดีมาก ซึ่งพี่ผู้ชายชอบพาเด็กๆออกมาเดินเที่ยว เนื่องจากว่าเรารักเด็กก็จะได้เข้าไปเล่นกับน้องเขาประจำ ซึ่งเมื่อตอนเวลาเย็นทางพี่ผู้ชายพึ่งจะได้ซื้อตู้แช่เย็นมาอีกปริมาณ 2 หลัง แล้วเอาไปวางปิดทางเข้าหน้าบ้านของเขา ตัวเองยังถามแฟนเลย ว่าแล้วพี่เขาจะเข้าจะเข้าออกบ้านอย่างไร จนกว่ามามีเหตุการณ์การเกิด เหตุไฟไหม้ ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว

เวลาที่ ร.ต.อ. ศาสตรา สีเข็ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้ตรวจทานสถานที่เกิดเหตุจึงได้กระทำการบันทึกภาพจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจทานบริเวณรอบๆจุดเกิดเหตุ

ดังนี้พนักงานที่มีหน้าที่สำหรับสอบสวน ได้ตรวจทานจุดเกิดเหตุ ร่วมชันสูตรวินิจฉัยศพ พร้อมด้วยหมอเวรโรงพยาบาลธัญบุรี ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ได้นำร่างส่งชันสูตรยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) ส่วนศพของสัตว์เลี้ยงทั้ง 12 ตัว ได้ส่งมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำรวบรวมไปให้ ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลดำเนินงานฝังกลบอีกทางหนึ่ง

ธุรกิจอสังหาฯ ใน “เมตาเวิร์ส” เฟื่องฟู นักลงทุนแห่ซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง

รายงานศึกษาค้นคว้าล่าสุดเปิดเผยว่า ตลอดตอน 12 เดือนที่ผ่านมาบรรดานักลงทุนทั่วทั้งโลกแห่กันเข้าซื้อจองที่ดินในโลกเสมือนจริงหรือ “เมตาเวิร์ส” (Metaverse) กันจำนวนมาก คิดเป็นค่าเกือบจะ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว

แม้ยังมีความไม่เที่ยงสูงแล้วก็จำต้องใช้เวลาอีกนานในการพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อให้เป็นพื้นที่ออนไลน์เพียงอย่างเดียวซึ่งผู้คนสามารถดำเนินชีวิตแบบอวตารบนโลกเสมือน พบปะคบหาสมาคม ทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันได้ แต่นักลงทุนพวกนี้ก็ยินดีทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเก็งกำไรล่วงหน้า

แอนจี ทอมป์สัน ศิลปินจากเมืองไบรตันของอังกฤษ กลายเป็นผู้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์ส หลังซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี 2020 ในราคา 1,500 ปอนด์ (ราว 63,500 บาท) เพื่อสร้างแกเลอรีสองที่จัดแสดงงานศิลปะของตัวเอง และก็ผลักดันผลงานของเพื่อนศิลปินคนอื่นๆด้วย

ที่ดินของแอนจีอยู่ในโลกเสมือน “ว็อกเซลเวิลด์” (Voxel World) หนึ่งในแพลตฟอร์ม เมตาเวิร์ส

ที่เธอสามารถขายผลงานศิลปะดิจิทัลด้วยเงินคริปโตเคอเรนซีได้ แกเลอรีขนาดเท่าบ้านหลังเล็กของเธอสร้างเป็นอาคารสามชั้น แล้วก็มีดาดฟ้าให้ผู้มาเยือนขึ้นไปชมทิวทัศน์ทิวภาพ

“เพียงแค่กดปุ่ม F คุณก็จะสามารถบินขึ้นไปดูพื้นที่โดยรอบ ยังมีที่ดินอีกหลายแปลงในแถบนั้น เรียงติดกันเป็นพืดยาวไปจนถึงจรดเส้นขอบฟ้า” แอนจีกล่าว

นอกเหนือจาก “เมตา” (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กแล้วก็อินสตาแกรมแล้ว ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สของอีกหลายบริษัทซึ่งเปิดขายที่ดินในโลกเสมือนจริงอยู่ โดยบริษัทพินิจพิจารณาข้อมูล Dapp Radar แถลงการณ์ว่า ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีนักลงทุนซื้อที่ดินในเมตาเวิร์สเหล่านี้แล้วทั้งมวล 1,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนนี้ราว 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกนำไปซื้อที่ดิน 33 แปลงในว็อกเซลเวิลด์

ข้อมูลดังที่กล่าวมาข้างต้นถูกเปิดเผยเนื่องจากว่ามีการใช้เงินคริปโตฯ สกุลอีเธอเรียม (Ethereum) ในการจำหน่ายที่ดินเสมือนจริง ทำให้มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้แล้วก็เปิดเผยสู่สาธารณะผ่านทางบล็อกเชน

โลกเมตาเวิร์สที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอีกแห่งหนึ่งก็เป็น “ดีเซนทราแลนด์” (Decentraland) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020 ที่ดินเสมือนจริงที่นี้ถูกบอกขายในสนนราคาตั้งแต่หลายพันไปจนกระทั่งหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีบริษัทดังอย่างซัมซุง (Sumsung) ยูพีเอส (UPS) แล้วก็สำนักประมูลซอธบีส์ (Sotheby’s) สนใจเข้าซื้อเพื่อสร้างร้านค้าแล้วก็ศูนย์บริการลูกค้าในโลกเปรียบเสมือนจริงดังที่กล่าวมาข้างต้น

สินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู “ฟิลิปป์ ไพลน์” (Philipp Plein) ได้เข้าจับจองที่ดินขนาด 4 สนามฟุตบอลในดีเซนทราแลนด์ด้วย เพื่อเตรียมปรับปรุงเป็นร้านค้าแล้วก็แกเลอรีเปรียบเสมือนจริงในอนาคต

ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์นี้พูดว่า แม่ของเขาไม่เห็นพ้องอย่างยิ่งที่เขาทุ่มเงินในการนี้ไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “แม่ผมโทรมาดุด่า เอ็งทำอะไรของแก ? บ้าไปแล้วเหรอ ? ทำไมใช้เงินเยอะแยะขนาดนี้…นี่มันอะไรกัน ?”

ในความเป็นจริงแล้ว “ฟิลิปป์ ไพลน์” ขายสินค้าทางออนไลน์ซึ่งสามารถซื้อได้ด้วยเงินคริปโตฯ ถึง 24 สกุล มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แล้วก็เมื่อต้นปี 2022 เขายังเปิดร้านใหญ่บนถนน Old Bond Street ของกรุงลอนดอน ซึ่งขายทั้งเสื้อผ้าแล้วก็สินค้าเอ็นเอฟที (Non-Fungible Tokens – NFTs) ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายด้วยเงินสด หรือเลือกจ่ายด้วยเหรียญคริปโตฯ อย่างบิตคอยน์หรืออีเธอเรียมก็ได้

“ผมกล้าเปิดร้านนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเมตาเวิร์สให้มากขึ้นเรื่อยๆ ผมกล้าทุ่มเงินซื้อที่ดินในโลกเสมือนจริง เนื่องจากว่าแบรนด์ของผมนั้นอยู่มานานถึง 24 ปีแล้ว ผมคิดว่าจะทำยังไง ถ้าเกิดในอนาคตพวกเราจำต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง” ฟิลิปป์ ไพลน์ กล่าว

แม้กระนั้น Dapp Radar รายงานเหตุว่า การที่เงินคริปโตฯ มีมูลค่าลดฮวบลงอย่างถล่มทลายในปีนี้ ทำให้ค่าปัจจุบันของอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์สตกต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยเฉียดใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีแล้ว

ด้าน “แซนด์บ็อกซ์” (Sandbox) แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สอีกแห่งหนึ่ง ก็มีสินค้าแล้วก็กิจการเจ้าดังอย่างอาดิดาส (Adidas),อาตาริ (Atari), กุชชี (Gucci), ยูบิซอฟต์ (Ubisoft), ไบแนนซ์ (Binance) และวอร์เนอร์ มิวสิก (Warner Music) พากันเข้าจับจองเป็นเจ้าของที่ดินเสมือนจริงเช่นเดียวกัน

ในกรณีของกุชชีนั้น มีการลงทุนสร้างร้านในโลกเกมออนไลน์ Roblox มาก่อนแล้ว ทั้งยังลงทุนในแบบเดียวกันที่แพลตฟอร์มเกมอื่นๆอย่าง Minecraft

แล้วก็ Fortnite อีกด้วย เนื่องจากว่าโลกเสมือนจริงของเกมพวกนี้มีคุณสมบัติความเป็นเมตาเวิร์สอยู่อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการมีชุมชนคนเล่นเกมขนาดใหญ่ ที่คนไม่ใช่น้อยพร้อมเข้ามาเล่นแล้วก็ฝังตัวอยู่ในเกมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน อีกทั้งมีสกุลเงินของตัวเองแล้วก็ได้โอกาสทำเงินหรือใช้เงินได้ในตัวเองอยู่แล้ว

ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา “กุชชีทาวน์” (Gucci Town) ซึ่งเป็นร้านในโลกเสมือนจริงของเกมออนไลน์ มีผู้มาเยือนถึง 36 ล้านคน โดยลูกค้าสามารถใช้เงินจริงซื้อสินค้าพวกเสื้อผ้าเครื่องเพชรพลอยให้กับอวตารของตัวเองได้ ส่วนร้านในเกมออนไลน์ของไนกี (Nike) มีลูกค้าเข้ามาซื้อเสื้อยืดแล้วก็รองเท้าแบบเสมือนจริงไปถึง 25 ล้านคน ในตอน 11 เดือนที่ผ่านมา

ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเป็นธุรกิจที่มีความสนใจกับจังหวะใหม่ๆที่มากับเมตาเวิร์สมากที่สุด อีกทั้งเป็นกรุ๊ปที่กล้ารับความเสี่ยงจากความไม่เที่ยงด้านเทคโนโลยีมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

กิจการที่ขายของแฟชั่นสำหรับโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียว เช่น The Fabricant มุ่งผลิตสินค้าจำพวกเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องเพชรพลอยสำหรับอวตารสวมใส่โดยเฉพาะ เพื่อนำออกวางขายในดีเซนทราแลนด์ แซนด์บ็อกซ์ แล้วก็โลกเมตาเวิร์สที่ใช้เงินคริปโตฯ อื่นๆ

แอมเบอร์ แจ สลูเทน หัวหน้าดีไซเนอร์แล้วก็ผู้ร่วมจัดตั้งกิจการ The Fabricant พูดว่า “ในช่วงเวลาที่พวกเราเปิดบริษัทใหม่ๆผู้คนมองว่าพวกเราบ้า พวกเขาคิดว่าคนใดกันแน่กันที่จะซื้อสิ่งของเสมือนจริงพวกนี้ แม้กระนั้นพวกเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตผู้คนจะสวมใส่สินค้าดิจิทัลของพวกเรา”

ปัจจุบัน The Fabricant พึ่งจะขายชุดเดรสดิจิทัลไปได้เพียงชุดเดียว โดยคิดเป็นค่า 19,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 715,000 บาท) ซึ่งเป็นการขายในลักษณะของผลงานศิลปะดิจิทัลหรือ NFT แล้วก็คนซื้อผลงานมิได้นำไปให้อวตารของตัวเองสวมใส่แต่อย่างใด

แม้กระนั้นทั้งนี้ทั้งนั้น มีคนที่เชื่อมั่นในแนวความคิดเมตาเวิร์สแล้วก็จังหวะทางธุรกิจที่อนาคตในโลกเสมือนจริงอยู่ไม่น้อย ล่าสุด The Fabricant สามารถระดมทุนจากผู้พึงพอใจทั่วทั้งโลกได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

ทว่าวันที่ เมตาเวิร์ส จะกลายเป็นโลกที่ผู้คนใช้ดำรงชีวิตอยู่เป็นหลัก

นั้นไม่มีใครรู้ว่าจะมาถึงเมื่อใดแน่ เดี๋ยวนี้แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่ใช้เงินคริปโตฯ ยังมีผู้มาเยือนลูกค้าประจำแล้วก็คนที่ลงหลักปักฐานสร้างธุรกิจเพียงแค่เรี่ยรายไม่กี่พันราย นอกจากในช่วงเวลาที่มีการจัดงานมหกรรมทางออนไลน์ครั้งใหญ่ๆเท่านั้น ก็เลยจะมีผู้มาเยือนหลักล้าน

แม้แต่แพลตฟอร์มของ “เมตา” เอง ที่ทุ่มทุนปรับปรุงไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ยังมีข่าวสารรั่วไหลออกมาจากข้างในบริษัทว่า ผู้คนไม่ค่อยมีความสนใจเข้าไปเยือนโลกเสมือนจริงแห่งนี้ และมักอยู่ไม่นานในแต่ละครั้ง

แม้กระนั้น สลูเทนยังเชื่อมั่นว่า “เมื่อมีการปรับปรุงไปมากขึ้น ผู้คนจะเริ่มเข้ามาแล้วก็จะเกิดตลาดขนาดใหญ่อย่างแน่แท้ ลองคิดถึงคนวัยหนุ่มวัยสาวรุ่นใหม่ที่เล่นเกมออนไลน์อยู่แล้ว สำหรับพวกเขาไม่มีการแบ่งแยกระหว่างโลกจริงแล้วก็โลกเสมือน แต่พวกเราจำต้องสร้างมันขึ้นมาก่อน”

โซเชียลอาลัย “บุญรอด” หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

ปิดตำนานผู้พิการสู้ชีวิต โซเชียลร่วมแสดงความระลึกถึง “นายรอด จงสืบโชค” หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่ เผชิญอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว

จากกรณี เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุ ชายพิการ กำลังนั่งรถวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ ถูกรถยนต์กระบะทะเบียน จ.จันทบุรี พุ่งชนเสียชีวิตคาที่ โดยเหตุเกิดรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ตำบลตลาด (สายมุ่งหน้าตลาดพลอย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขณะผู้ตายกำลังรอข้ามแยกตรงทางข้าม

ต่อมา ทราบว่าเป็นชายพิการคนมีชื่อเสียงกล่าวหมายถึงนายรอด จงสืบโชค อายุ 36 ปี หรือที่ประชาชนเรียกกันว่า “บุญรอด” มีอาชีพขายลอตเตอรี่อยู่ในจังหวัดจันทบุรีมานานนับเป็นเวลาหลายปี จนเป็นที่รู้จักของชาวบ้านกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จากการพิจารณาเฟซบุ๊กของ นายรอด จงสืบโชค พบว่ามีผู้เข้ามาโพสต์อาลัยอาวรณ์ และแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ “บุญรอด” กันเป็นจำนวนมาก.

เศร้า สาวขับชน หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่ ดับคาวีลแชร์ ร่ำไห้ขอขมาศพ

ชายพิการนั่งวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ที่จันทบุรี ราษฎรรู้จักในชื่อ “นายบุญรอด” เคราะห์ไม่ดี ขณะกำลังรอคอยผ่านทางตรงสี่แยก ถูกรถปิคอัพขับโดยสาววัย 31 ปี พุ่งชนเสียชีวิตคาที่ คนชนตกใจร้องไห้เสียใจ กราบขอขมาศพ เวลา 14.04 น. วันที่ 10 พ.ย. ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุชายพิการ กำลังนั่งรถยนต์วีลแชร์ขายลอตเตอรี่ ถูกรถยนต์กระบะทะเบียน จ.จันทบุรี พุ่งชนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ตำบลตลาด (สายมุ่งหน้าตลาดพลอย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขณะผู้ตายกำลังรอคอยผ่านแยกตรงทางม้าลาย

สำหรับผู้ตาย ทราบว่าเป็นผู้พิการ มีอาชีพขายลอตเตอรี่อยู่ในจังหวัดจันทบุรีมานานนับเป็นเวลาหลายปีจนมีผู้รู้จักและผู้ติดตาม Facebook เป็นจำนวนมาก ชื่อนายรอด จงสืบโชค อายุ 36 ปี ชาวบ้านเรียกว่า บุญรอด

ส่วนคนขับรถยนต์เป็นนางสาวกัลสุดา เทือกดอนหัน อายุ 31 ปี บ้านเดิมอยู่ อำเภอแวงใหญ่ จ.ขอนแก่น หลังจากเกิดเหตุคนขับได้เสียใจนั่งร้องไห้ฟูมฟาย ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กู้ภัยนำศพไปส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตร คนขับรถได้เข้ามากราบศพขอขมาผู้ตาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความซึมเศร้าเศร้าใจ

ชายพิการนั่งวีลแชร์ขายลอตเตอรี่ถูกรถปิคอัพชนเสียชีวิตกึ่งกลางตัวเมืองจันท์ เวลา 14:04 น. ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุชายพิการขายลอตเตอรี่ กำลังเข็นขายลอตเตอรี่ ถูกรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บย 6795 จันทบุรี พรุ่งชนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ตำบลตลาด (สายมุ่งหน้าตลาดพลอย) อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

โดยราษฎรเรียกว่าบุญรอด รอบๆที่เกิดเหตุคนขับขี่รถยนต์นั่งเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ช่วยเหลือนำศพไปส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรคนก่อเหตุเข้ามากราบขอขมาผู้ตาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความซึมเศร้าเสียใจ

สาวขับกระบะเสียหลักชนวีลแชร์ หนุ่มพิการขายลอตเตอรี่เสียชีวิตคาที่ เพื่อนเผยหนุ่มพิการกำลังจะไปสู่ขอแฟนสาวแต่งงานในอีกไม่กี่ในภายหน้า

วันที่ 10 พ.ย. 65 พ.ต.ต.ชาญฤทธิ์ สุขเจริญ สว.สอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี รับแจ้ง เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ เฉี่ยวชนรถยนต์วีลแชร์คนพิการ มีผู้ตาย 1 ราย บนถนนเบญจมราชูทิศ ช่วงรอบๆสี่แยกเมืองจันท์ ซอยถนนขวาง ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จ.จันทบุรี จึงผสาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ กำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอกเตชิต กุลกนิษฐรากร ผกก. สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมกับ นายกิจฐพร โชติสุวรรณ์ นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี ร่วมวิเคราะห์ด้วย

ที่เกิดเหตุพบผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่บนฟุตบาธข้างแบริเออร์คอนกรีต ชันสูตรเบื้องต้นพบมีบาดแผลรอบๆท้อง และต้นขาฉีกขาด ใกล้กันพบรถเข็นวีลแชร์สีแดงของผู้ตาย ถูกชนพังเสียหาย ห่างกันน้อย ยังพบรถปิคอัพ นิสสัน นาวาร่า สีดำ จอดอยู่ข้างถนน สภาพด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชนพังเสียหาย ล้อหน้าทางซ้ายแตกและหลุดออกมากองพับพื้นถนน โดยมี สาว อายุ 31 ปี เป็นคนขับ อยู่ในอาการตกใจร้องไห้ตลอดเวลา

จากการสอบสวนเบื้องต้น รู้ชื่อผู้ตายเป็น นายรอด จงสืบโชค อายุ 36 ปี ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากอยู่ในแผง ตำรวจได้เก็บไว้รักษาไว้ให้กับญาติพี่น้อง ขณะที่คนขับรถกระบะให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับไปเอาอุปกรณ์ฌาปนกิจศพที่วัดเขต ให้กับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นสัปเหร่อที่วัดป่าคลองกุ้ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถเข้าช่องเดินรถฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่มี นายรอด ผู้ขายลอตเตอรี่เข็นสวนทางมากำลังจะเลี้ยวเข้าซอย จึงพุ่งชนเข้าอย่างแรง

ขณะที่คนรู้จักกับผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า นายรอด จะเข้าไปขายลอตเตอรี่ ในวัดเขตนาบุญญารามบ่อยๆ และกำลังเริ่มจะมีฤกษ์ดีเตรียมจะไปสู่ขอแฟนสาวที่คบหากันอยู่แต่งงาน ในไม่อีกกี่ในภายหน้านี้ แต่มาเผชิญอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการสำรวจภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาประมวลกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปมูลเหตุที่ชัดเจน สำหรับในการสรุปสำนวนคดี เพื่อฟ้องร้องคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

นทท.สายมู แห่อาบน้ำเพ็ญด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ 9 วัดดัง ไม่พลาดส่องเลขเด็ดในขัน

นักเดินทาง แห่เดินทางมาอาบน้ำเพ็ญด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ 9 วัดดังเมืองแม่กลอง เพื่อความเป็นศิริมงคลคึกคัก ไม่พลาดส่องเลขเด็ดในอ่างน้ำมนต์

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่สวน ร.2 ตำบลอัมพวา อ.อัมพวา จ.จังหวัดสมุทรสงคราม อบจ.จังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับ สวน ร.2 ได้จัดพิธีการอาบน้ำเพ็ญ เพื่อความเป็นศิริมงคลในคืนวันลอยกระทง โดยนางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับคำเสนอแนะจากพระพระเทพสุเมธี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ฝ่ายธรรมยุติ เจ้าอาวาสวัดเกตุการาม ให้ถือศีล 7 วัน 7 คืน เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย

ก่อนที่พระเทพสุเมธี จะนำน้ำพระพุทธมนต์ที่ผ่านการปลุกเสก 9 วัดดังเมืองแม่กลอง

เทรวมในขันสาคร นางสาวสุกานดา จุดเทียนชัยและเทียนกำลังวันที่ขันสาคร ช่วงเวลาเดียวกันพระสวดคาถาจุดเทียนชัย จากนั้นพระเทพสุเมธี นำคณะสงฆ์รวม 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ธรรมจักรกัปวัฒนสูตร จบแล้ว พระเทพสุเมธี ดับเทียนชัย และนำน้ำพระพุทธมนต์ เทลงในโอ่งน้ำ 9 ใบ เพื่อผู้เข้าร่วมพิธีการได้อาบน้ำเพ็ญจากโอ่งน้ำดังที่กล่าวมาข้างต้น ในเวลาเที่ยงคืนวันลอยกระทง วันพระจันทร์เต็มดวงเดือน 12 นอกเหนือจากนี้พระเทพสุเมธีได้ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นมงคลด้วย

อย่างไรก็แล้วแต่ นักเดินทางสายมูเตลูได้ส่องเลขเด็ดในอ่างน้ำมนต์ บางคนก็เห็นเป็นเลข 9 ไทย บ้างก็ว่าเลข 5 หรือ เลข 6 อารบิค ต่างนำกลับไปเสี่ยงดวงกันคึกคัก

สำหรับพิธีการอาบน้ำเพ็ญ ด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้ นางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.จังหวัดสมุทรสงคราม

ได้รับคำเสนอแนะจากพระเทพสุเมธี ให้ถือศีล 7 วัน 7 คืน ตักน้ำจากแหล่งน้ำหน้าวัดดาวดึงษ์ ซึ่งเป็น 1 ในแม่น้ำ 5 สาย หรือ เบญจสุทธิคงคา ที่เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามโบราณราชประเพณี สำหรับการประกอบพิธีมงคลต่างๆนำมาผ่านพิธีการพุทธาภิเษกบริกรรมมนต์จากเจ้าอาวาส 9 วัดดังแห่งที่ลุ่มแม่กลอง ประกอบด้วย

วัดเพชรสมุทรวรวิหาร, วัดประดู่พระอารามหลวง, วัดอัมพวันเจติยาราม พระอารามหลวง, วัดจุฬามณี, วัดพญาญาติ, วัดเกตุการาม, วัดอินทาราม, วัดบางกะพ้อม และวัดนางตะเคียน มาทำพิธีอาบน้ำเพ็ญบนเกาะกลางน้ำในเวลาเที่ยงคืนวันลอยกระทง

เร่งล่าตัวคนขับรถกระบะ ยั่วยุช้างป่า โทษปรับสูงสุด 1 แสน เสี่ยงทำพฤติกรรมช้างเปลี่ยน

รีบล่าตัว คนขับรถกระบะ ยุช้างป่าให้โกรธ โทษปรับสูงสุด 1 แสน เสี่ยงทำการกระทำช้างเปลี่ยน บางทีอาจรังแกรถคันอื่นในอนาคต

จากกรณีที่มีคลิปนักเดินทางรายหนึ่ง ขับขี่รถสีขาวฝ่าฝืนการตักเตือนของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าไปหาช้างป่าที่กำลังกินของกินริมทาง แล้วต่อจากนั้นมีการเบิ้ลเครื่องใส่เพื่อยุ ทำให้ช้างวิ่งเข้าใส่ที่รถ ต่อจากนั้นก็ถอยออกมา แล้วเปลี่ยนด้านขับฝ่าไปอีกทาง พร้อมกับหยุดรถ เปิดประตูใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพ ก่อนที่จะขับขี่รถออกไป ท่ามกลางความตกอกตกใจของผู้ที่ขับขี่รถตามหลัง กลัวว่าจะเกิดเหตุไม่ปลอดภัยขึ้น

ล่าสุด วันที่ 6 พ.ย. 2565 เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park

ออกมาประณามการกระทำดังที่กล่าวถึงแล้วว่า อาจจะก่อให้เกิดความย่ำแย่ต่อสินทรัพย์แล้วก็อันตรายต่อชีวิต รวมถึงการกระทำของช้างป่าที่อาจจะเปลี่ยนไป

นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามนักเดินทางดังที่กล่าวถึงแล้วแล้ว เนื่องจากเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องทำตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งให้ทำตามกฎระเบียบที่อธิบดีกำหนด

นอกจากนี้จะมีการปรับตามระเบียบกฎเกณฑ์มาตรา 47 คือ ใครขัดคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 20 หรือมาตรา 28 หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 21 มาตรา 22 หรือมาตรา 27 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

สำหรับสิ่งที่ไม่อนุญาตเวลาขับขี่รถพบช้างบนถนนที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 9 ข้อ ดังนี้

1. อย่าใช้แตรรถหรือแผดเสียงดังก่อกวนช้างหรือไล่ช้าง

2. หยุดรถให้ห่างจากช้างขั้นต่ำ 30 เมตร ถ้าช้างเดินเข้าหาให้เคลื่อนรถหนีโดยการถอยหลัง

3. ห้ามใช้ไฟแฟลช

4. ถ้าพบช้างในยามค่ำคืนให้เปิดไฟรถไว้เสมอ

5. ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ

6. ไม่ควรหยุดรถแล้วก็ลงไปถ่ายภาพ

7. ไม่ควรหยุดรถมองช้าง

8. ถ้ารถคันหน้าถอย รถคันถัดไปก็ให้ถอยรถอย่างมีสติ

9. ถ้าตกอยู่ในวงล้อมของช้าง ให้ออกทางที่ช้างน้อยที่สุด